เราอาจคิดว่าการตรวจบ้านกับการประเมินบ้านคือสิ่งเดียวกันแต่ที่จริงแล้วทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! การประเมินบ้านคือประเมินมูลค่าการตลาดของบ้านที่ธนาคารมักจะประเมินก่อนที่จะอนุมัติวงเงินกู้ให้ ดังนั้นการประเมินก็เป็นเรื่องของมูลค่าของบ้านแต่ไม่ได้รวมถึงการตรวจสอบสภาพของบ้านหรือสิ่งที่ต้องซ่อมแซมแก้ไข การตรวจบ้านคือตรวจสอบสภาพของบ้านก่อนผู้ซื้อจะทำการเซ็นต์รับโอนบ้านจากเจ้าของโครงการ เพราะฉะนั้น การจ้างมืออาชีพในการตรวจบ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก!
อะไรบ้างที่ต้องตรวจ?
โดยทั่วไปแล้วราคาการตรวจบ้านอยู่ที่ 5,000 - 20,000 บาท และใช้เวลาในการตรวจ 3-4 ชั่วโมง นักตรวจบ้านมืออาชีพจะตรวจสอบบ้านตามข้อดังต่อไปนี้
- งานสถาปัตย์ทั้งภายนอกและภายใน
- ระบบประปา
- ระบบไฟฟ้า
- ระบบสุขาภิบาล
- การรั่วซึม
- หลังคา (บินโดรน)
- ฝ้า,ฉนวนหลังฝ้า
- ผนัง, วอลล์เปเปอร์, ประตู, หน้าต่าง
- งานพื้น พื้นกระเบื้อง พื้นลามิเนต พื้นปาร์เก้ ฯลฯ
เมื่อมีการตรวจสอบทั้งหมดตามที่กล่าวมาข้างต้น นักตรวจบ้านจะทำเอกสารรายงานข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขส่งให้ผู้ซื้อและทางโครงการ ตรงจุดนี้เองผู้ซื้อสามารถเจรจาต่อรองกับทางโครงการอีกครั้งหากพบปัญหาที่ต้องแก้ไข เพราะฉะนั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีและฉลาด หากจ้างบริษัทตรวจบ้านทันทีมีการเซ็นต์สัญญาซื้อขายเรียบร้อย และที่สำคัญในหนังสือสัญญาควรมีเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อบกพร่องที่พบในการตรวจบ้าน ถ้าหากพบว่าบ้านต้องมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขงานหลังคามูลค่าสูงจนทำให้ผู้ซื้ออาจต้องคิดทบทวนในการซื้อใหม่ กลับกันผู้ซื้อสามารถเจรจาต่อรองกับทางโครงการให้จ่ายเงินชดเชยสำหรับงานที่ต้องแก้ไขได้
ผู้ซื้อควรอยู่ด้วยขณะตรวจบ้าน
เมื่อถึงเวลาสำหรับการตรวจบ้าน เจ้าของบ้านควรอยู่หน้างานกับนักตรวจบ้านด้วย เพราะการซื้อบ้านคือการลงทุนขนาดใหญ่ ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะอยู่ดูทุกขั้นตอนขณะตรวจบ้าน เวลาตรวจเจอ Defect ที่ใหญ่และเป็นปัญหาใหญ่เจ้าของบ้านจะได้รู้ทันที ไม่เพียงแค่นั้นผู้ซื้อยังสามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวบ้านการดูแลรักษา หรือข้อควรระวังต่าง ๆ ได้อีกด้วย และนักตรวจบ้านมืออาชีพต้องสามารถอธิบายและให้คำแนะนำแก่เจ้าของบ้านได้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ซื้อควรอยู่หน้างานด้วยขณะตรวจบ้าน
1.ตรวจสอบหลังคา
งานหลังคาเป็นอีกงานหนึ่งที่สำคัญมากเพราะเป็นส่วนที่ปกคลุมบ้านไว้ทั้งหลัง นักตรวจบ้านบางรายอาจตรวจสอบแค่เพียงยืนดูด้วยตาเปล่าจากข้างล่าง แต่นักตรวจบ้านที่ดีจะต้องขึ้นไปข้างบนและตรวจสอบอย่างละเอียด โดยปัญหาที่พบเจอส่วนใหญ่จะเป็นหลังคารั่วซึม มาจากหลังคาที่บิ่นแตกหรือมีช่องโหว่ง
2.ตรวจสอบเครื่องใช้ในบ้านว่าทำงานได้หรือไม่อย่างถี่ถ้วน
ถึงแม้ว่าเครื่องใช้ในบ้านอาจทำงานได้ปกติและไม่มีข้อบกพร่องที่ต้องระบุในรายงานแต่นักตรวจบ้านที่ดีจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องใช้ในบ้าน เช่น บอกให้ทราบถึงสภาพการใช้งานหรือมีอายุการใช้งานกี่ปี รวมทั้งวิธีการดูแลรักษา เป็นต้น
3.ศึกษาตำแหน่งวาล์วเปิด-ปิดของระบบต่าง ๆ
ผู้ซื้อสามารถหลีกเลี่ยงเหตุฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้หากผู้ซื้อทราบวาล์วเปิด-ปิด น้ำและไฟฟ้า อยู่ตรงไหน และใช้งานอย่างไร
4.ถามคำถาม
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านครั้งแรก การถามเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะการเป็นเจ้าของบ้านเป็นภาระที่หนักอึ้ง ถ้าหากผู้ซื้อไม่ทราบถึงการดูแลบำรุงรักษาสิ่งของหรือส่วนประกอบอื่น ๆในบ้าน นักตรวจบ้านสามารถช่วยตอบคำถามให้คุณกระจ่างได้
หากคุณกำลังซื้อบ้านและต้องการบริการตรวจบ้านด้วยมืออาชีพ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเลือก ต.ตรวจบ้าน
1. ตรวจเช็ก โดยวิศวกรที่ผ่านงานบริษัทก่อสร้างญี่ปุ่น (บริษัทก่อสร้างญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดเรียบร้อยมากๆ และทำงานเป็นมืออาชีพ)
2. ตรวจสอบครบทุก function การใช้งานหลักไม่เน้นล่ารายการ defect ให้ดูเยอะ ๆ มาก ๆ เพราะทีมงานเราตรวจบ้านทุกวันไม่ใช่ทำเป็นงานเสริมเเละไม่มีการรับงานมาเยอะ ๆ เเล้วจ่ายให้คนอื่นไปตรวจเหมือนที่อื่น
3. คติในการทำงานของเรา “ตรวจจริง เห็นกับตา ไปพร้อมลูกค้า” ไม่ใช่รีบมา รีบทำรีบกลับ เเล้วบอกว่าตรวจเสร็จเเล้ว ซึ่ง 80% ของบริษัทตรวจบ้าน ในตลาดเป็นเเบบนี้!!!
ติดตามบทความดีๆจาก ต.ตรวจบ้าน ได้อีกที่หน้าบทความของเรา!
แจกฟรี!!!เอกสารความรู้เกี่ยวกับการตรวจบ้าน
5 บ่อสำคัญที่คนซื้อใหม่ต้องรู้และวิธีดูแลรักษา
วิธีตรวจสอบการรั่วซึมโดยกล้องวัดอุณหภูมิ
วิธีตรวจสอบการป้องกันความร้อน ของฉนวนกันความร้อน โดยกล้องวัดอุณหภูมิ